Girls, not objects งาน(นิทรรศการตีแผ่ชีวิต)ไอดอล ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้สึก

เมื่อพูดถึงงานไอดอล เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยต้องนึกถึงคอนเสิร์ต ไม่ก็งานอีเวนท์น่ารักๆ แบบงานจับมือ แตะนิ้ว ถ่ายรูปกันใช่มั้ยล่ะ และในบ้านเราก็เต็มไปด้วยสารพัดงานอีเวนท์ของไอดอล ทั้งที่เป็นงานตัวเองบ้าง รวมกับคนอื่นบ้าง ถ้าให้คำนวณตามความรู้สึกของผมก็น่าจะมีซักเดือนละ 3-4 งานได้ ใครสายรันวงการคงได้มีกระเป๋าฉีกกันบ้างแหละ และจากบรรดางานไอดอลที่ทุกคนคุ้นชินว่ามันต้องมีไลฟ์ ต้องมีกิจกรรมเนี่ย ก็ได้มีงานๆ นึง ผุดขึ้นมาครับ ด้วยโปสเตอร์สีขาวสะอาดตา กับบรรดาหญิงสาวที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันบนสเตจ หรือบางทีอาจจะเคยโดนหนึ่งในพวกเธอกวักมือเรียกให้เข้ามาซื้อของที่บูธ แต่คราวนี้พวกเธอไม่ได้มาร้อง เต้น หรือมากวนประสาทไปพร้อมกับเซ็นเชกิให้คุณแต่อย่างใด

ภาพประชาสัมพันธ์ของงาน Girls, not object ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16-17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
(เครดิตภาพ : IKIGAI)

งานนี้เป็นนิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายที่มีชื่อว่า “Girls, not objects” ซึ่งทางผู้จัดได้เลือกที่จะใช้ไอดอลมาตีแผ่ปัญหาในเรื่องของ “Objectification” ที่อธิบายเป็นภาษาชาวบ้านง่ายๆว่า การถูกปฏิบัติเหมือนเป็นสิ่งของ ไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ ซึ่งก็เป็นปัญหาสังคมที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไป แต่เอาจริงๆ ไม่ถึงกับต้องเป็นไอดอลหรอกถึงจะเจอปัญหาแบบนี้ พวกคุณที่กำลังอ่านบทความนี้เนี่ยแหละ ผมเชื่อว่าในช่วงชีวิตของพวกคุณ จะต้องมีคนๆนึง หรืออาจจะมีหลายคน ที่คอยส่งพลังลบให้กับคุณมากมาย จนทำให้เนื้อแท้ด้านในของคุณเปลี่ยนไป และบางทีผลลัพธ์นั้นอาจร้ายแรงจนพวกเขาอาจไม่ได้คิดถึงตรงจุดนั้นเลย

ตัวงานจะจัดแสดงภาพถ่าย 18 ภาพ 18 ความหมาย โดย 23 หญิงสาว ซึ่งก็มีทั้งตัวแทนของวงไอดอลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนัชชี่ Happy Tail, เวเฟอร์ VioletWink, นายน์ Daisy Daisy, แบมบี้ Akira-Kuro, มู่หลาน Honey Toast, อุ๋ม Daifuku, แพมแพม FMA Parfait, น้ำตาล แครอท พิวา Black Dolls, สองพี่น้องณนาว นุ๊กกี้ WhiteOut และก็ยังมีอดีตสมาชิกวงไอดอล ทั้งไหม อดีต Siamese Kittenz (คนนี้เป็นแม่งานด้วยนะครับ), ซินซิน อดีต BNK48, วีวี่ อดีต Blissful, เติ้ล อดีต Amuse, ธัญญ่า ไนส์ ถุงเงิน อดีต Taste of Love, ต้นน้ำ อดีต Black Forest, ลูกไม้ อดีต Lemonade และมิวสิค แอนนี่ อดีต Sweat16 เรียกได้ว่ารวมตัวแทนไอดอล(และอดีตไอดอล)มาแทบจะทุกวงเลยก็ว่าได้…

นี่มันอเวนเจอร์ของวงการไอดอลไทยชัดๆ…

งานนิทรรศการได้ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16-17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่แกลลอรี่เล็กๆที่ชื่อว่า “Joyman Gallery” โดยในวันแรกของงานจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในช่วงเย็น ซึ่งทางงานก็ได้รับเกียรติจากคุณ Mohammad Naciri ผู้ซึ่งเป็น Regional Director Regional Office for Asia and the Pacific ของ UN WOMEN มาเป็นประธานเปิดงาน ก่อนจะเปิดตัวสาวๆ ที่มาเป็นโมเดลในโปรเจกค์นี้ ตัวเป็นๆ ให้เหล่าแฟนๆที่มางานในวันนั้นยลโฉมและบันทึกภาพกันถ้วนหน้า

Mohammad Naciri : Regional Director Regional Office for Asia and the Pacific of UN WOMEN

ผมกับเพื่อนๆ ก็ไปช่วงเปิดงานเนี่ยแหละ เพราะโอชิผมก็เป็นนางแบบในโปรเจกค์นี้ด้วย แต่ก่อนที่จะไปยืนจับจองพื้นที่ถ่ายรูป ผมก็เดินดูรูปภาพทั้ง 18 รูป ที่ใส่กรอบสีขาวสะอาดตา แขวนอยู่ตามมุมต่างๆของแกลลอรี่ด้วยความตั้งใจ พร้อมกับอ่านคอนเซปต์ที่อยู่ด้านล่างของแต่ละรูป ผมไม่ได้มาเดินดูนิทรรศการศิลปะแบบนี้มาตั้งแต่หลังเรียนจบแล้ว(ภาพถ่ายมันก็คือวิธีรังสรรค์ศิลปะแบบหนึ่ง) ผมโคตรคิดถึงบรรยากาศสงบ มีผู้คนรายล้อมไม่ถึง 10 คนในแกลลอรี่มากเลย(แต่ดันมาช่วงคนเยอะซะงั้น…)

วีวี่ หนึ่งในนางแบบของงานนี้ งานของเธอมีคอนเซปต์ว่า “เพราะคุณค่าของมนุษย์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก”

ปัญหา Objectification ที่ถ่ายทอดในชิ้นงานทั้ง 18 นั้น แม้ส่วนใหญ่จะตั้งต้นมาจากประสบการณ์ของไอดอลสาวก็เถอะ แต่ก็มีปัญหาบางส่วนเช่นกันที่สามารถเชื่อมโยงไปยังคนธรรมดาได้ และเมื่อมันถ่ายทอดออกมากลายเป็นองค์ประกอบภาพในแบบที่เห็น ก็ทำให้สามารถเข้าใจสารที่สื่อออกมาโดยง่าย และด้วยความที่พวกเธอสวมชุดสีขาว เมื่อมายืนอยู่ท่ามกลางองค์ประกอบที่เป็นตัวแทนของ Objectification แล้วก็รู้สึกหดหู่อยู่เหมือนกันนะ

และยิ่งบางปัญหามันถ่ายทอดโดยไอดอลที่เคยประสบปัญหานี้จริง มันเลยยิ่งทำให้ผมหดหู่หนักกว่าเดิมอีก

ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพที่ผมชอบมากเลย ภาพนี้มีคอนเซปต์ว่า “ของเล่น” เป็นแบบโดยน้ำตาล แครอท และพิวา จากวง Black Dolls ด้วยโทนการแต่งหน้าให้แก้มแดงระเรื่อ และจัดท่าทางที่สื่อได้ชัดเจนว่าเหมือนตุ๊กตา พร้อมกับเงามือปริศนาที่คอยจ้องจะเล่นสนุกกับตุ๊กตาตรงหน้า

ผมชอบในตัวผลงานนะ ตัวสารที่เปล่งออกมามันเป็นกระจกสะท้อนตนชั้นดีเลยนะ โดยเฉพาะแฟนๆไอดอลทั้งหลายเนี่ย เพราะบางทีเราอาจจะเผลอกระทำเช่นนั้นกับพวกเธอก็เป็นได้ เอาจริงๆ ไม่ถึงกับต้องมาชื่นชอบไอดอลหรอกถึงจะตระหนักกับเรื่องแบบนี้ ถึงผมจะไม่ค่อยอินกับ Feminism เท่าไหร่ แต่อย่างที่บอก ปัญหา Objectification มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ใช่แค่กับผู้หญิงหรือบุคคลสาธารณะ และไม่ว่าจะในฐานะผู้ถูกกระทำหรือผู้กระทำโดยไม่เจตนาก็เถอะ และมันจะลดลงได้ ถ้าทุกคนหันมาตระหนักถึงปัญหานี้กันเยอะๆ

“ผมว่ามนุษย์แต่ละคนต่างมีเครื่องกลั่นพลังงานในร่างกายตัวเอง แม้ของบางคนจะสามารถกลั่นพลังงานเสียให้กลายเป็นพลังงานสะอาดได้อย่างสบายๆ แต่ของบางคนอาจจะไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะกลั่นพลังงานเสียที่ถาโถมเข้ามามากมาย จนอาจส่งผลให้เครื่องพังได้ในที่สุด”

ไม่ใช่คำคมนักปราชญ์คนไหนหรอก ผมพูดเอง…
บรรยากาศเปิดงานในวันนั้น

จบการพรรณนาไว้แค่นี้ อีกอย่างที่ผมโคตรชอบมากเลยสำหรับงานนิทรรศการนี้ก็คือ “การผลิต Photoset ออกมาขาย” แน่นอนว่าเราไม่มีเงินเกือบห้าหลักเพื่อซื้อรูปที่แขวนอยู่ในงาน ให้ไปแขวนที่บ้านได้ Photoset ที่ทำขายจึงเป็นทางเลือกราคาย่อมเยาสำหรับแฟนๆไอดอล ที่อยากจะสนับสนุนผลงานดีๆแบบนี้ แถมรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะถูกบริจาคให้กับองค์กร UN Women Asia and the Pacific เพื่อนำไปพัฒนาชีวิตให้กับผู้หญิงที่ตกอยู่ในภาวะลำบากทั่วโลกด้วยนะ ผมก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วย เซ็ตนึงจะมี 3 ใบ ทั้งแบบสุ่มและแบบเลือกนางแบบได้(แบบหลังมีขายแค่หน้างานนะครับ) ทันทีที่ผมเปิดซอง ก็รู้สึกปลื้มปริ่มอย่างบอกไม่ถูก เพราะทีมงานที่จัดงานนี้เป็นแค่เหล่านิสิตนักศึกษาที่มารวมตัวกัน แต่กลับใส่ใจในการผลิต Photoset ขนาดนี้ โว้ว… ผมอึ้งไปเลย… คือ Photoset ที่เขาทำนั้นคุณภาพดีมาก หมึกคมชัด กระดาษเนียนกริบ รู้สึกคุ้มกับราคาที่เสียไปจริงๆ แม้ว่ามันจะแพงกว่า Photoset ปกติที่แต่ละวงทำขายก็เถอะ แต่เรากลับไม่รู้สึกเสียดายตังค์เลย มีครั้งนึงผมเคยซื้อ Photoset ของวงไอดอลวงหนึ่ง ซึ่งผมขอไม่ระบุชื่อวงแล้วกัน เปิดซองปุ๊บ รู้สึกผิดหวังปั๊บในเรื่องของคุณภาพมากเลย… แต่ผมก็ยังอยากเห็นการพัฒนาในจุดๆนี้อยู่นะครับ

Photoset ที่ขายในงานครับ อันนี้เป็นแบบที่เลือกนางแบบได้ คุณภาพดีกว่าที่คิดไว้เยอะมากกกกกก….

(ทางงานเขาเปิดให้สั่ง Photoset ได้อีกจนถึงวันที่ 7 ธันวาคมนี้นะครับ หรือใครทุนสูงอยากจะได้รูปไปแขวนที่บ้านก็ดูรายละเอียดได้ตามข้างล่างนี้เลย)

ถ้ามองในฐานะงานที่เกี่ยวกับไอดอล มันยังเป็นอะไรที่แปลกใหม่เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ และถ้ามองในฐานะงานนิทรรศการแสดงศิลปะ บางคนอาจจะมองว่านางแบบเด่นเกินหน้าเกินตาไปหรือเปล่า? แต่ผมว่านี่มันคงจะเป็นครึ่งทางระหว่างงานสองแบบนี้แล้ว อีกอย่าง การนำไอดอลมาตีแผ่สังคมผ่านงานแบบนี้ มันไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆด้วยนะ และหวังว่าเป้าหมายในการจัดงานครั้งนี้ของทีมงาน จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมตามที่หวังไว้ อาจจะไม่ปุบปับทีเดียว แต่มันอาจจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่สุดท้ายมันก็คือการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอยู่ดี

รอชมงานตัวต่อไปอยู่นะครับ…

About Pan Yoshizumi 118 Articles
นอกจากซูเปอร์ฮีโร่จะเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบแล้ว ผมยังชอบไอดอลสาว และการท่องโลกอีกต่างหาก....