[J-HERO.COM REVIEW] Ohsama Sentai King-Ohger สุดยอดขบวนการที่เป็นยิ่งกว่า King of Kings

Ohsama Sentai King-Ohger

ปีที่ออกอากาศ: 5 มีนาคม 2023 – 25 กุมภาพันธ์ 2024
จำนวนตอน: 50 ตอน
โปรดิวเซอร์: Okawa Takehiro, Omori Takahito
เขียนบท: Takano Minato
กำกับการแสดง: Kamihoriuchi Kazuya
แสดงนำ: Sakai Taisei, Watanabe Aoto, Murakami Erika, Hirakawa Yuzuki, Kaku Sō, Ikeda Masashi, Yano Masato


เรื่องย่อ:

กว่าสองพันปีมาแล้วที่ “โลกแห่งจิคิว” เกิดสงครามเผ่าพันธุ์ระหว่างมนุษย์และบัคนาแรค ห้าราชาผู้ใช้พลังแห่งแมลงเทพเจ้า “ชูก็อด” ก็สามารถกำราบพวกมันให้กลับลงไปใต้ผืนพิภพได้เป็นผลสำเร็จ และราชาทั้งห้าก็ได้สร้างโลกใหม่ที่สันติสุขขึ้นมา ทว่าตามคำทำนายบัคนาแรคจะกลับขึ้นมาสร้างความวุ่นวายอีกครั้ง และวันนั้นก็ได้มาถึงแล้ว

ราชารุ่นใหม่ทั้งห้าจึงต้องจับดาบและปลุกเหล่าชูก็อดขึ้นมาเพื่อต่อสู้อีกครั้ง….


รีวิว:

โดยปรกติแล้วซูเปอร์เซนไตจะมีการวางแผนงานอยู่ในกรอบ 1 ปีก่อนซีรีส์ฉายครับ ตั้งแต่กำหนดพล็อต ประชุมหาแนวทางของเล่นของสะสม เขียนบท หาทีมงาน หานักแสดง และเริ่มโปรดักชั่น

แต่กับคิงโอเจอร์แล้ว เรื่องนี้มีการวางแผนงานล่วงหน้าถึง 1 ปีครึ่งเลย สาเหตุหลักเป็นเพราะการวางมือของ Shirakura Shinichiro โปรดิวเซอร์มือทองที่สร้างผลงานมาแล้วมากมายหลายเรื่องให้กับโตเอะ ซึ่งในปีนี้เจ้าตัวขอทำการย้ายไปอยู่ฝ่ายพัฒนาคาแรคเตอร์เพื่อการตลาด และตั้งเป้าจะก้าวไปยัง Global Marketing ให้ได้ภายใน 10 ปีตามโครงสร้างที่เตรียมไว้

จึงทำให้สตูดิโอต้องกำหนดแนวทางด้วยความละเอียดมากกว่าเดิม เพราะไม่รู้เลยว่าทิศทางหรือมุกใหม่ ๆ จากฝั่งของทีมงานชุดใหม่จะได้เสียงตอบรับมากแค่ไหน แต่ด้วยความกล้าแบบสุดโต่งของ Omori Takahito ที่ฝากผลงานสุดเจ๋งเอาไว้มาแล้วอย่างมากมาย ทั้ง Zyuden Sentai Kyoryuger, Kamen Rider Drive, Kamen Rider Ex-Aid, Kamen Rider Build, Kamen Rider Zero-One บวกกับงานเขียนบทที่ได้ Takano Minato มือขวาของนักเขียนบทรุ่นใหม่ Takahashi Yuya เข้ามารับงานเป็นเรื่องแรก อีกทั้งมีการผสานเทคโนโลยีจอ LED ขนาดยักษ์ที่โตเอะเพิ่งจะลงทุนสร้าง (บวกกับเช่าสตูดิโออื่นที่เปิดอยู่) มันเลยทำให้งานนี้ดูมีความยิ่งใหญ่อลังการมากขึ้นไปอีก

และผลตอบรับที่ได้… มันยิ่งกว่าคำว่าสุดยอดเสียอีกครับ

เบื้องหลังการถ่ายทำ

คิงโอเจอร์มีการเล่าเรื่องที่เป็นระเบียบ เป็นขั้นเป็นตอน และมีเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมอยู่ตลอดระยะเวลาของการออกอากาศ เพราะนี่คือการฉีกกฎและธรรมเนียมปฎิบัติของขบวนการห้าสีในรอบ 45 ปีที่สร้างมา เรียกได้ว่าจะหาอะไรซ้ำกับเรื่องนี้ก็คงจะไม่มี ทั้งคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำ ตัวละครที่มีความสำคัญเท่าเทียมกับ มีประเด็นของพล็อตใหญ่และซับพล็อตให้แฟน ๆ ได้กล่าวถึงทุกสัปดาห์ และรีดเอาพลัง + ขีดจำกัดของทรัพยากรที่มีเอามาใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง หรือเทคโนโลยีการถ่ายทำ

ความดีงามไม่ได้มีแค่เพียงในส่วนของเนื้อหาเท่านั้น หากแต่พาร์ทของงาน VFX ก็ทำได้ไม่เลว และเทียบชั้นกับซีรีส์ระดับใหญ่ได้เลย อาจจะมีบ้างที่ลอยจนดูเพี้ยน หรือฉากที่ดูลิเกไปหน่อย (ในสายตาผมนะ) แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสในการรับชมมันด้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย

ยิ่งฉากที่เน้นการขยี้ปม หรือพวกฉากต่อสู้ พลังของ VFX ที่ผสานกันและส่งอารมณ์ให้ระเบิดถึงขีดสุด เอาแบบว่าดูจบนี่อยากจะกรีดร้องและออกไปซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องแบบไร้ข้อกังขา กอปรกับเพลงประกอบสุดทรงพลัง คือไม่รู้จะหาคำบรรยายอะไรที่จะมาเล่าให้ฟังได้ในหนึ่งย่อหน้า แต่ขอบอกแค่ว่าขอบคุณทีมงานทุกคนที่สร้างผลงานชิ้นนี้ออกมาได้สำเร็จจริง ๆ

แม้จะมีจุดให้อวยยศสรรเสริญกันแบบไม่เกรงใจหลายเรื่องก่อนหน้า แต่กระนั้นคิงโอเจอร์เองก็มีเรื่องที่น่าติเตียนอยู่เล็กน้อย ทั้งเรื่องเนื้อหาบางส่วนที่อยากจะเล่าให้ยาวก็ตัดจบในระยะเวลาสั้น ๆ หรือการสรุปประเด็นสำคัญใน Dialog ของตัวละครที่ไม่เหมาะสำหรับคนชอบดูอะไรยาว ๆ … ก็นั่นล่ะครับ มันเล็กน้อยมากจนไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ต้องเอามาติเตียนเลย #ฮา

สำหรับเรื่องนี้ ผมขอแนะนำเป็นสองแนวทางนะครับ

สำหรับแฟน ๆ ซูเปอร์เซนไต – นี่คือซีรีส์ที่คุณจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลยตลอด 50 ตอน ความ EPIC ที่พร้อมจะอวสานได้ทุก ๆ ห้าตอน ฉากต่อสู้และ VFX ที่ยัดเข้ามาจนแฟนบางส่วนเอ่ยปากด้วยความเป็นห่วงว่างบจะพอไหม (ซึ่ง ผกก. บอก YES) ยังไม่นับการเล่าเรื่องที่แบบว่า “เฮ้ย! ได้ไง” หรือ “โอ๊ย! ทำไมหยุดดูไม่ได้” อันนี้ยกความดีความชอบให้ทีมงานทุกคน และมือเขียนบทที่วางเรื่องไว้แบบชาญฉลาดสุด ๆ

และสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนหนังแปลงร่างห้าสี – อาจจะดูยากไปนิดเพราะติดที่เนื้อหามันลิเก ฉากก็ลอย ๆ แม้จะเนียนไม่เท่ากับซีรีส์อื่นตาม Netflix / Amazon Prime / Disney+ แต่ถ้าหากคุณเปิดใจให้กับเนื้อหาที่เค้ากำลังเล่า และแกล้งปล่อยเบลอกับคำจำกัดความของ “ซีรีส์สำหรับเด็ก” ออกไป เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ดูสนุกอีกซีรีส์หนึ่งเลย

สรุป:

ตลอดทั้งชีวิตที่ดูหนังแปลงร่างมากว่า 40 ปี ยอมรับครับว่าเรื่องนี้คือ “ที่สุด” ในทุกด้าน เพราะมันคือการดึงเอาศักยภาพของ “ทุกภาคส่วน” มาใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด บทดี ทีมงานเจ๋ง นักแสดงเข้ม คาแรคเตอร์น่าจดจำ กำกับได้ถึงใจ VFX เยี่ยม หุ่นยนต์เท่น่าซื้อ เพลงประกอบฟังแล้วขนลุกซู่ และวางมาตรฐานใหม่ของคำว่า “คุณภาพ” ที่มีบาร์สูงจนคิดว่าหลังจากนี้คงจะไม่มีเรื่องไหนทำออกมาได้เทียบเท่าหรือดีกว่าเรื่องนี้อีกแล้ว

ใช่ครับ นี่คือ “โอซามะเซนไต คิงโอเจอร์”

คะแนน: มีเท่าไหร่ ให้เต็มไม่หัก แถมบวกเพิ่มด้วย


Head Writer – Takano Minato