ทำไมคาเมนไรเดอร์ฮิบิคิถึงได้เปลี่ยนทีมงาน?

มาตอบคำถามที่ค้างเอาไว้เมื่อวานนี้นะครับ กับเรื่องที่ว่า “ทำไมฮิบิคิถึงได้เปลี่ยนทีมงาน?” ผมได้ลองสืบค้นข้อมูลเก่าๆดู ซึ่งข้อมูลที่ได้มานี้ยังเป็นข้อมูลที่ไม่ได้รับการยืนยัน 100% ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใครที่พอจะทราบต้นสายปลายเหตุจริงๆก็รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะครับ

ก่อนอื่นก็ต้องขอเล่าย้อนไปถึงจุดกำเนิดของ Kamen Rider Hibiki ก่อนครับ
แรกเริ่มเดิมทีนั้น TOEI ได้มอบหมายให้คุณ “ชิเงโดริ ทาคาเดระ” (หนึ่งในทีมโปรดิวซ์ นินจาเซนไท คาคุเรนเจอร์) มาเป็นโปรดิวเซอร์ในการสร้างคาเมนไรเดอร์ซีรี่ย์เรื่องที่ 6 ของยุคเฮยเซย์ “คาเมนไรเดอร์ฮิบิคิ”

ซึ่งคุณทาคาเดระนั้นได้วางคอนเซปท์ของเรื่องให้เป็นการต่อสู้ของผู้ใช้ “องเงคิ” กับเหล่ามารร้ายมาคาโม่ (คำว่าองเงคิแปลได้ใจความว่า “ผู้ใช้เสียงในการต่อสู้) ไม่ใช่คาเมนไรเดอร์ตามคอนเซปท์เหมือนกับเรื่องที่ผ่านๆมา เรียกได้ว่าเป็นการแหวกและพยายามจะฉีกแนวๆเดิมของซีรี่ย์ที่มีชื่อว่า “คาเมนไรเดอร์” ไปโดยสิ้นเชิง

ขอลิสต์ชื่อทีมงานของคุณทาคาเดระ และผลงานเก่าๆให้ดูกันก่อนนะครับ
โปรดิวเซอร์ – ชิเงโดริ ทาคาเดระ : ผลงานเก่าๆก็มีคาคุเรนเจอร์ครับ
เขียนบท – ชินจิ โออิชิ : ไม่ทราบผลงานเก่า แต่ผลงานล่าสุดคือไดมาจินคาน่อน
เขียนบท 2 – สึโยชิ คิดะ : ไม่ทราบผลงานเก่า แต่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในทีมงานอนิเมะ Bleach



เมื่อซีรี่ย์เริ่มฉายไปได้ราวๆ 20 กว่าตอน ด้วยความ ART ของคุณทาคาเดระที่สร้างซีรี่ย์ชุดนี้ออกมาจนเด็กๆไม่สามารถจะเข้าถึงได้ / การออกแบบเนื้อเรื่องให้มีความเป็นผู้ใหญ่มากเกินไป / การใช้งบประมาณจนเกินความจำเป็น (CGI สัตว์ยักษ์เกือบทุกตอน) / มากาโม่และสัตว์ประหลาดที่ดูน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็ก รวมไปถึงอื่นๆอีกมากมายจนทำให้ยอดขายของเล่นนั้นพุ่งลงเหวจนเรียกได้ว่าเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว

ร้อนถึงสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง BANDAI นั้นเกิดความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก
นั่นก็ทำให้ TOEI ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อแก้ไขเรทติ้งที่ลดลง และพยายามเอาใจสปอนเซอร์หลักไปพร้อมๆกันด้วย ซึ่งทางออกนั้นก็คือการเปลี่ยนทีมงานผู้สร้างในชุดของ “โปรดิวเซอร์” และ “ผู้เขียนบท” ทั้งหมดนั่นเองครับ

โดยที่มีการนำเอาคุณ “ชินอิจิโร่ ชิราคุระ” ซึ่งเคยฝากผลงานการโปรดิวซ์มากับคาเมนไรเดอร์ซีรี่ย์เรื่องเก่าๆ เช่น คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ รวมไปถึงไลฟ์แอคชั่นอย่างเซเลอร์มูน และ Sh15ya มาแล้ว

นี่ก็คือรายชื่อของทีมงานใหม่ครับ
โปรดิวเซอร์ – ชินจิโร่ ชิราคุระ : คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ เซเลอร์มูนไลฟ์แอคชั่น
คาเมนไรเดอร์เดอะเฟิร์ส / เดอะเนกซ์ และไดเรนเจอร์
เขียนบท – โทชิกิ อิโนอุเอะ : คาเมนไรเดอร์อากิโตะ / คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ / และล่าสุดที่เราได้ชมก็คือ “โกไคเจอร์” ตอนปีกแห่งนิรันดร์ ก็คือตอนที่แบล็คคอนดอร์กลับมานั่นเองครับ (ดูจบตอนแล้วร้องไห้เลยอ่ะ)
เขียนบท 2 – โชจิ โยเนะมูระ : โปเกม่อน / สไมล์พรีเคียว / คาเมนไรเดอร์คาบูโตะ / คาเมนไรเดอร์ดีเคด / คาเมนไรเดอร์โอซ
/ คิวตี้ฮันนี้เดอะไลฟ์



เห็นชื่อทีมงานชุดสองแล้ว ก็ต้องบอกว่าถูกส่งมาเพื่อกู้หน้าจริงๆ ซึ่งงานแรกของทีมงานโปรดิวซ์ชุดใหม่ก็คือ ฮิบิคิภาคหนังโรงที่มีชื่อว่า “ฮิบิคิปะทะเจ็ดอสูรสงคราม” และเริ่มคุมงานในส่วนของทีวีซีรี่ย์ตั้งแต่ตอนที่ 30 เป็นต้นไป


เหมือนทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี แต่ทว่า …


มันเกิดการต่อต้านเล็กๆ รวมไปถึงตัวของนักแสดงเองที่รู้สึกไม่พอใจกับบทใหม่ที่ถูกเขียนขึ้นมาเป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะทีมงานเก่านั้นคัดเลือกนักแสดงที่สามารถเข้าถึงบทที่พวกเค้าสร้างขึ้นมาได้เป็นอย่างดี แต่พอเปลี่ยนทีมงาน นักแสดงก็รู้สึกได้ว่าเนื้อหาและแนวทางของ “ฮิบิคิ” นั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

แม้แต่นักแสดงนำอย่างคุณ “ชิเกคิ โฮโซคาว่า” ผู้รับบทฮิบิคิเองก็รู้สึกไม่พอใจเช่นเดียวกัน ถึงขนาดว่าเขียนลงบล็อกตัวเองเลยว่าทีมงานใหม่นั้น “ดูหมิ่น” แนวคิดของทีมงานชุดเก่าแบบไร้มารยาทกันเลยทีเดียว เพราะคุณโฮโซคาว่านั้นสามารถที่จะแสดงความคิดเห็นต่อบทที่ได้รับกับทีมงานชุดแรกอย่างเต็มที่ ต่างกับทีมงานชุดที่สอง ที่คุณโฮโซคาว่านั้นไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้เลยแม้แต่น้อย

ด้วยความที่ทีมงานใหม่นั้นเข้ามาสานต่องานที่ยังครึ่งๆกลางๆอยู่ ทำให้บ่อยครั้งการประสานงานเต็มไปด้วยปัญหามากมาย แม้กระทั่งตอนจบ บทละครที่ใช้นั้นถูกเปลี่ยน และเขียนใหม่ในวันสุดท้ายของการถ่ายทำ ซึ่งคุณโฮโซคาว่าถึงกับแสดงความผิดหวังต่อการทำงานของทีมงานใหม่เป็นอย่างมาก เพราะเนื้อหาที่ได้วางเอาไว้ในตอนแรกนั่นก็คือการให้อาสุมุ กับคิริยะเป็นนักรบอสูรด้วยกันนั่นเอง !!! (ว่ากันว่า ชุดสำหรับสองคนนั่นก็เสร็จแล้วด้วยนะครับ แต่ดันใช้แค่ชุดของคิริยะคนเดียว …. )


สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากทีมงานใหม่เข้ามา

– ปรกติทุกตอนในต้นเรื่อง อาสุมุจะต้องมาเป็นคนเปิดเรื่องด้วยคำบรรยายของเค้าเอง
หลังจากทีมงานใหม่เข้ามา ส่วนนี้จึงถูกระงับไป
– เพลงเปิดเดิมจากที่เป็นเพลงบรรเลง ก็ถูกสั่งให้ทำเพลง OP2 ขึ้นมาใหม่ โดยที่จะต้องมีเสียงร้องลงไปด้วย
– อักษรคันจิที่ปรากฏระหว่างดำเนินเรื่อง ถูกตัดไป
– เพิ่มตัวละครใหม่ “ชูกิ” และ “คิริยะ
– นักรบอสูร “อิคคิ” กับ “โชกิ” ถูกลบออกไปจากสารบบ
– ฉากอ้าปากพ่นไฟของฮิบิคิ และฉากอ้าปากเป่าแตรของอิบูกิ ถูกลบออกไปเนื่องจากน่ากลัวเกินไป (จริงง่ะ? ไม่มั้ง)
– ฉากการถ่ายทำในป่า ถูกทำให้ลดลง และเน้นเรื่องของการใช้อุปกรณ์ (ของเล่น) มากขึ้น

ถึงจุดนี้สรุปได้ว่า ถึงแม้เนื้อเรื่องจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่สามารถตอบสนองผู้สนับสนุนหลักได้ ก็เท่ากับว่ามีค่าเป็นศูนย์อยู่ดี บางทีถ้าทีมงานเก่านั้นยังคงทำงานต่อ เราคงได้เห็นยักษ์ทุกตัว หรืออาสุมุเป็นยักษ์ต่อจากฮิบิคิสมใจคนดู และอาจจะมีคาเมนไรเดอร์ … ไม่สิ มีซีรี่ย์ที่เกี่ยวกับนักรบองเงคิที่มีนามว่าฮิบิคิ เป็นหนึ่งในซีรี่ย์ที่อยู่ในหัวใจตลอดกาลก็อาจจะเป็นได้นะครับ