Review : ชิน•มาสค์ไรเดอร์ | Shin Masked Rider

ผลงานจักรวาล Shin ลำดับที่ 3 และเป็นผลงานบินเดี่ยวของผู้กำกับเนื้อหอมที่ญี่ปุ่นในเวลานี้อย่าง Hideaki Anno แต่หลังจากที่ผมชมแล้ว ต้องบอกจากใจครับว่านี่คือหนังจักรวาล Shin ที่ผมชอบน้อยที่สุด

ก่อนอื่นต้องบอกครับว่า เสน่ห์ของหนังจักรวาล Shin อย่างการที่ผู้กำกับเนิร์ดโทคุซัทสึจะใส่ความชื่นชอบต่าง ๆ และ Easter Egg เข้าไปในหนัง ซึ่ง Shin Masked Rider ยังคงจัดเต็มในหนังเรื่องนี้เช่นเดิม มีตั้งแต่โทนของเรื่องที่ทำเหมือนหนังจากยุคโชวะทั้งการตัดต่อบทพูด, การทำซีนเคารพต้นฉบับ, ดนตรีและซาวด์เอฟเฟคต่าง ๆ หรือแม้แต่การใส่กิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สื่อถึงอาจารย์อิชิโนโมริ โชทาโร่ ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ ส่วนนี้ผมรับรองว่าแฟน ๆ ไรเดอร์จะสนุกกับส่วนนี้ได้มากพอสมควรยิ่งถ้าคุณชื่นชอบมาสค์ไรเดอร์ยุคโชวะ ทั้งนี้รวมไปถึงดีไซน์ที่ออกมาดูดี มีความเท่แต่ก็เคารพต้นฉบับอย่างมาก ไม่แปลกใจถ้าของเล่นของสะสมจากหนังจะขายดีครับ

นอกจากนี้การถ่ายภาพต่าง ๆ สไตล์ของผู้กำกับ Anno ต้องบอกว่ามันแปลกแต่มีเสน่ห์ครับ หลายฉากเรียกว่าสวยมาก ๆ จนอยากแคปไปเป็นวอลเปเปอร์ในคอมเลย แต่ทั้งนี้ในส่วนการตัดต่อของหนัง เนื่องจากมีคอนเซปว่าเป็นการคารวะยุคโชวะ การตัดต่อบางช่วงก็จะโดด ๆ งง ๆ ซึ่งถ้าใครเข้าใจคอนเซปนี้ก็อาจจะชอบ แต่คนทั่วไปอาจจะไม่อินกับการตัดต่อแบบนี้เช่นกัน

แต่ข้อดีพวกนี้ผมต้องบอกว่ามันไม่อาจปิดบาดแผลใหญ่ของหนังหลายจุดได้ ส่วนที่ผมรู้สึกผิดหวังมากที่สุดคงเป็นในส่วนของฉากแอ็คชั่น ซึ่งในครึ่งแรกของหนังต้องบอกว่าทำได้ดีมากครับ เป็นสิ่งที่ผมอยากเห็นในการตีความมาสค์ไรเดอร์สำหรับจักรวาล Shin แต่เมื่อไปถึงกลางเรื่องทุกอย่างกลับดูประหลาด หลายฉากแอ็คชั่นที่มีความรวดเร็วมากเกินไปผสมกับฉากที่มืดจนเกินไป ทำให้เรามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในฉากต่อสู้ บางซีนเข้าขั้นเกิดอาการเวียนหัว

นอกจากนี้ฉากแอ็คชั่นบางส่วนก็พึ่ง CG มากเกินไป ทั้งที่จริง ๆ แล้วจักรวาล Shin ค่อนข้างมีจุดอ่อนด้านนี้มานาน และแฟรนไชส์มาสค์ไรเดอร์ก็มีความโดดเด่นในด้านฉากแอ็คชั่นสตั๊นท์มากพอควร แต่กลับกลายเป็นว่าส่วนนี้มันเน้นแค่ครึ่งแรก นอกนั้นใช้ CG มากไปจนเราไม่อินไปกับฉากต่อสู้ ครั้นพวกฉากแอ็คชั่นใช้สตั๊นท์ ครึ่งหลังก็ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าครึ่งแรกเลย ดูเหนื่อยหน่ายน่าเบื่อ จนแอบสงสัยลึก ๆ ว่าหนังมันมีปัญหาในเรื่องการสร้างหรือเปล่า คุณภาพครึ่งหลังเลยดรอปขนาดนี้

สำหรับบทก็เป็นสไตล์ของผู้กำกับ Anno ครับ คือจะมีข้อมูลอัดใส่คนดูเยอะ ๆ พูดกันหูหลับตับไหม้ พร้อมแทรกปรัชญาให้คนดูคิดตามกันไป ซึ่งต้องบอกว่าเนื้อหาในหนังมันน่าสนใจครับ มันทำให้แฟรนไชส์ Kamen Rider มีอะไรที่ไปได้ไกลมากขึ้น แต่ปัญหาคือมันสื่อออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก หนังยัดประเด็นมากไป และไม่มีเวลาที่จะพาประเด็นไหนไปได้สุดทาง ผลคือครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไปหมด แม้แต่ตัวละครที่มีนักแสดงจะแสดงออกมาอย่างดีมาก แต่เพราะบทมันไม่ส่งทำให้พลังของนักแสดงทำงานไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น บางตัวละครยังไม่มีโอกาสได้ฉายแสงความน่าสนใจก็หายไปจากเรื่องเสียแล้ว ซ้ำร้ายเนื้อหาบางส่วนต้องไปตามมังงะภาคต้นเพื่อเข้าใจอีก กลายเป็นว่าไม่มีประเด็นไหนที่เราอินไปกับมันได้เลย

สรุปแล้วสำหรับ Shin Masked Rider น่าจะเหมาะกับแฟน ๆ ของแฟรนไชส์นี้ (โดยเฉพาะยุคโชวะ) ที่อาจจะฟินกับความเนิร์ดของผู้กำกับ Anno ที่ใส่เข้ามาในหนัง แต่ในส่วนตัวผม สิ่งเหล่านี้ไม่อาจทำให้ผมรู้สึกสนุกกับหนังได้มากเท่าไหร่นัก หนังมีปัญหามากเกินไปจนเรามองข้ามไม่ได้ แต่ทั้งนี้นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ ลองไปสัมผัสดูก่อนไม่แน่ว่ามันจะเป็นหนังที่ท่านชอบมาก ๆ ได้เช่นกัน

Shin Masked Rider เข้าฉายวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ