สรุปประเด็นที่น่าสนใจจาก Kamen Rider Zero-One ตอนที่ 1

 สรุปประเด็นที่น่าสนใจจาก Kamen Rider Zero-One ตอนที่ 1

“ฮิวม่าเกียร์”

ในโลกของคาเมนไรเดอร์ซีรีส์มักจะสร้างของแปลก ๆ ออกมาเสมอครับ และในเรื่องนี้ก็คือสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ที่มีชื่อว่า HumaGear หรือ AI ที่สามารถจดจำใบหน้า ปฏิบัติงานตามคำสั่งที่ถูกป้อนลงไป โดยฮิวม่าเกียร์ทั้งหมดที่ปรากฏในตอนแรกก็คือผลงานของ Hiden Intelligence บริษัทที่บริหารงานโดย ฮิเด็น โคเรโนะสุเกะ คุณปู่ของพระเอกในเรื่องนี้นั่นเอง

“ZEA”

เป็นดาวเทียมที่เชื่อมต่อฐานข้อมูลสำคัญ รวมไปถึงป้อนคำสั่งไปยังฮิวม่าเกียร์ที่ถูกสร้างขึ้นมา อาจจะดูเหมือนเป็นดาวเทียมธรรมดา แต่เชื่อว่านี่อาจจะเป็นคีย์สำคัญของเรื่องที่พูดถึงโศกนาฏกรรมในอดีตก็เป็นได้ครับ

“แทนที่มนุษย์ ? ? ?”

เดิมที่เป้าหมายของการสร้างฮิวม่าเกียร์ออกมานั้นคือ “สนับสนุนการทำงานของมนุษย์” เช่นงานในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก, งานบริการทั่วไป รวมไปถึงงานรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ 

แต่ทว่าสิ่งที่ปรากฏในเรื่องนั้น เป็นสิ่งที่โลกแห่งความเป็นจริงอย่างเรา ๆ กำลังกังวล นั่นคือการเข้ามาทำหน้าที่แทนมนุษย์ของ AI ซึ่งพวกเค้าสามารถลบข้อจำกัดเรื่องของเวลา / งบประมาณ / ขีดความสามารถ รวมไปถึงการแบกรับความกดดันทางจิตใจอันเป็นอุปสรรคของมนุษย์ไปได้โดยสมบูรณ์

จากเรื่องราวที่เราได้รับชมก็คือ พระเอกของเราถูกไล่ออกเพราะเล่นตลกไม่ฮาเท่ากับฮิวม่าเกียร์ในตอนที่ 1

“Daybreak Town”

เมืองร้างที่มีสภาพเหมือนจุดตกของดาวเทียมขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งซ่อนตัวของพวก “เม็ทสึโบะจินไร.เน็ท” 

การเล่นเนื้อหาส่วนนี้ทำให้นึกถึงคาเมนไรเดอร์คาบูโตะอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อไปอีกว่าดาวเทียมที่จมอยู่ในเมืองนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อกลุ่มเม็ทสึโบะจินไร.เน็ท รวมไปถึงอดีตอันเป็นต้นกำเนิดของความสูญเสียที่เกี่ยวกับตัวละครหลาย ๆ ตัวในเรื่อง

“Hiden Inteligence 3D Printing System”

ระบบอัจฉริยะที่สามารถสร้างวัตถุสามมิติได้ตามข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไป ดูแล้วเหมือนเตา “AGE System” ที่อยู่ในอนิเมะ Gundam AGE ก็ไม่ปาน

นี่คือสิ่งที่โคเรโนะสุเกะทิ้งไว้ให้กับหลานชายเพื่อปกป้องโลก รวมไปถึง “การตั้งเวลาปลุก” เพื่อให้อิสึทำงานร่วมกับอารูโตะอีกด้วย ตรงนี้ก็น่าสนใจครับว่าโคเรโนะสุเกะไปเจออะไรมา ถึงได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้แบบนี้

“พินัยกรรมและการคาดการณ์”

ไม่เพียงแต่การยกบริษัทให้เท่านั้น แต่รวมไปถึงหน้าที่การใช้งาน Hiden Zero-One Driver อีกเช่นกัน เพราะในพินัยกรรมได้ระบุถึงภัยพิบัติที่อาจจะเกิดจาก AI (รวมไปถึงพวกเม็ทสึโบะจินไร.เน็ท) 

เรื่องราวเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วมันมีอะไรซ่อนอยู่ คงต้องติดตามกันต่อไป

“จุดตกของดาวเทียม?”

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฉากนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตของอารูโตะ และระเบิดที่เห็นก็เป็นไปได้อีกเช่นกันว่าเป็นการตกของดาวเทียมที่ปรากฏในเดย์เบรคทาวน์

อารูโตะอาศัยอยู่ที่นั่น? พ่อตัวจริงของอารูโตะไปไหน?

“ความฝันไม่ใช่สิ่งที่จะเข้าใจกันง่าย ๆ”

มีคำพูดหนึ่งที่มาเกียร์ประจำตอนได้กล่าวถึงการทำลายความฝัน อารูโตะตอบกลับไปว่าพวก AI จะไปเข้าใจอะไร มาเกียร์ตัวดังกล่าวจึงทำการ Search ในระบบถึงความหมายและอธิบายให้อารูโตะฟัง

ทว่าอารูโตะไม่ได้หมายความแบบนั้น เพราะความฝันมันเป็นอะไรที่มากกว่า AI จะมาเข้าใจได้ ความฝันของมนุษย์นั้นมันสุดล้ำจินตนาการมากกว่าคำสั่งที่ถูกใส่เข้าไปในระบบของฮิวม่าเกียร์ซะอีก

และเพื่อปกป้องความฝันนั้น อารูโตะจึงตัดสินใจที่จะแปลงร่างโดยไม่ลังเล

“Learning & Progrise”

เพื่อเป็นการเติมเต็มเนื้อหา การแปลงร่างครั้งแรกของอารูโตะจึงต้องใส่ดีเทลความสมจริง (ที่ดูโอเวอร์ แต่ก็รับได้) ลงไป นั่นคือการถอดความนึกคิดให้เชื่อมต่อกับดาวเทียม ZEA ในความเร็วระดับเดียวกับ AI เพื่อเรียนรู้การใช้งานเข็มขัดในรูปแบบต่าง ๆ

โดยทุกขั้นตอนนั้นเกิดขึ้นภายในเวลาน้อยกว่า 5 วินาที

มีคำถามว่าอารูโตะเป็นมนุษย์จริง ๆ หรือเปล่า … อันนี้ไม่กล้าเดา แต่คิดว่าน่าจะมนุษย์จริง ๆ นั่นล่ะ

“เด็กหาย?”

ตรงนี้ก็น่าสนใจครับ มีคนตั้งข้อสังเกตว่าหมอนี่เป็นมนุษย์รึเปล่า?

จากฉากที่ปรากฏคิดว่าน่าจะเป็นมนุษย์จริง เพราะเค้าถูกโจมตีจากฮิวม่าเกียร์ที่อาละวาดแถวนั้น แต่ก็ไม่แน่ครับ อาจจะเป็นการเข้าทำร้ายแบบไม่คิดก็เป็นได้ อันนี้คงต้องตามกันต่อไป

แต่ในตอนที่กำลังสู้กัน มันมีเสียงประกาศเพื่อส่งสัญญาน “เด็กหาย” ขึ้นมา ถ้ามโนกันแบบสุด ๆ หมอนี่อาจจะเป็นเหยื่อจากการตกของดาวเทียมเมื่อสิบกว่าปีก่อนจนทำให้สูญเสียทุกอย่าง และเข้าร่วมกับเม็ทสึโบะจินไรเพื่อล้างแค้น … ก็เป็นได้

“ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”

คำพูดสุดท้ายของอิซามุก็คือ “ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอบอีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?” ซึ่งจากข้อมูลตัวละครได้เปรยเอาไว้ว่าเค้าคือคนที่ได้รับผลกระทบบางอย่างจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของ Hiden Intelligence และฮิวม่าเกียร์

ความแค้นฝังใจครั้งนี้จะเป็นตัวผลักดันให้เค้ามีบทบาทในเรื่องได้มากน้อยแค่ไหน … น่าสนใจครับ

“ความฝันไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียว”

ความฝันของอารูโตะนั้นคือการสร้างรอยยิ้มให้กับผู้อื่น เค้าจึงมุ่งไปในเส้นทางของตลกเดี่ยวไมโครโฟนเพื่อสร้างเสียงหัวเราะ ทว่านี่อาจจะไม่ใช่พรสวรรค์ของเค้าก็เป็นได้ เพราะเริ่มงานวันแรกก็ตกงานไปซะแล้ว

แต่หลังเกิดเหตุการณ์ อารูโตะได้เห็นรอบยิ้มของทุกคนที่เค้าเพิ่งจะลงมือปกป้องไป ทำให้เค้าคิดได้ว่าการสร้างรอยยิ้มนั้นไม่จำเป็นต้องเดินบนเส้นทางของดาวตลกก็ได้ บางทีการเป็น “คาเมนไรเดอร์” ก็ปกป้องความฝันและสร้างความสุขให้กับทุกคนได้เช่นกัน

ชีวิตของประธานบริษัทอายุน้อยร้อยล้าน เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ